แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2
รายวิชา
งานไฟฟ้า 2 รหัสวิชา ง 20232 กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี
โรงเรียนประสาทรัฐประชากิจ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555
สาระที่ 1
หน่วยที่ 1 เรื่อง วงจรไฟฟ้า เวลา 4.00
ชั่วโมง
มาตรฐานที่
ง 1.1 เข้าใจการทำงาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทำงาน
ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทำงานร่วมกัน และทักษะการแสวงหา
ความรู้ มีคุณธรรม
และลักษณะนิสัยในการทำงาน
มีจิตสำนึกในการใช้พลังงาน
ทรัพยากร และ
สิ่งแวดล้อม เพื่อการดำรงชีวิตและครอบครัว
......................................................................................................................................................
แนวความคิดหลัก
งานไฟฟ้าถือว่าเป็นสิ่งสำคัญของวงจรไฟฟ้าเป็นการนำอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าไปต่อใช้งานกับแหล่งจ่ายไฟฟ้า ต่ออยู่ในรูปวงจร ส่วนประกอบหลักของวงจรไฟฟ้ามี 3 ส่วน คือ แหล่งจ่ายไฟฟ้า โหลด
และสายต่อวงจร
ตัวชี้วัด
วิเคราะห์ขั้นตอนการทำงานตามกระบวนการทำงาน
( ง 1.1 ม.1/1)
ผลการเรียนที่คาดหวัง
1.
ความหมาย ความสำคัญ ของวงจรไฟฟ้าเบื้องต้นได้
2.
หลักการทำงานของวงจรไฟฟ้า
จุดประสงค์การเรียนรู้
·
ด้านความรู้ มีความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของวงจรไฟฟ้าทั้งหลักการและการต่อวงจรไฟฟ้าเบื้องต้น
·
ด้านทักษะกระบวนการ กระบวนการความรู้ความเข้าใจ
·
ด้านเจตคติ เห็นความสำคัญของการเรียนรู้เรื่อง
วงจรไฟฟ้า
สาระสำคัญ
วงจรไฟฟ้าซึ่งประกอบด้วย แหล่งจ่าย
ลวดตัวนำ และโหลด จะเห็นได้ว่าอย่างน้อยในวงจรประกอบด้วย ส่วนประกอบอยู่หลายส่วนด้วยกัน และถ้าจ่ายแรงดันไฟฟ้าให้กับวงจรด้วยแล้ว ภายในวงจรก็จะมีกระแสไฟฟ้าไหล
ค่าต่างๆที่เกี่ยวข้องจะเห็นว่าต้องมีความสัมพันธ์กันทั้งสิ้น จึงจะทำให้เกิดความเหมาะสมของวงจร ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้ถึง ค่าต่างๆเหล่านั้น จะได้นำมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ในงานไฟฟ้า
การต่ออุปกรณ์ของวงจรไฟฟ้าต่างๆ
เป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากถ้าผู้ปฏิบัติงานขาดความรู้และเทคนิคในการต่อวงจรแล้วจะเกิดผลเสียอย่างร้านแรงต่อผู้ปฏิบัติงาน และทรัพย์สิน
เนื้อหาสาระ
วงจรไฟฟ้า
ชนิดของวงจรไฟฟ้าในการต่อใช้งานต่อได้ 3
แบบ คือ
วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม โดยการต่อโหลดเรียงลำดับกัน ทำให้วงจนมีกระแสผ่านโหลดเท่ากันทุกตัว เกิดแรงดันตกคร่อมโหลดแต่ละตัวไม่เท่ากัน วงจรไฟฟ้าแบบขนาน โดยการต่อโหลดทุกตัวในวงจรคร่อมขนานกันไปทั้งหมด มีแรงดันตกคร่อมโหลดทุกตัวเท่ากัน แต่กระแสไหลผ่านโหลดแต่ละตัวไม่เท่ากัน และวงจรไฟฟ้าแบบผสม
เป็นการต่อวงจรรวมกันระหว่างวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรมกับวงจรไฟฟ้าแบบขนาน รูปแบบการต่อวงจนไฟฟ้าแบบผสมไม่มีมาตรฐานตายตัว
ส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า
วงจรไฟฟ้าเบื้องต้นที่เกิดขึ้นต้องประกอบไปด้วยส่วนประกอบ
3 ส่วน
1.
แหล่งจ่ายไฟฟ้า
เป็นแหล่งจ่ายแรงดันและกระแสให้กับอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า
โดยแหล่งจ่ายไฟฟ้าสามารถนำมาได้จากหลายแหล่งกำเนิด เช่น จากปฏิกิริยาเคมี (ไฟฟ้ากระแสตรง) จากขดลวดตัดผ่านสนามแม่เหล็ก (ไฟฟ้ากระแสสลับ) เป็นต้น
บวกหน่วยการวัดเป็นโวลต์ (Volt) หรือ V
2.
โหลดหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า
เป็นอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ไฟฟ้าในการทำงาน
โหลดจะทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นพลังงานรูปอื่นๆ เช่น เสียง
แสง ความร้อน ความเย็น
และการสั่นสะเทือน เป็นต้น
โหลดเป็นคำกล่าวโดยรวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดอะไรก็ได้ เช่น
ตู้เย็น พัดลม เครื่องซักผ้า
โทรทัศน์ วิทยุ และเครื่องปรับอากาศ เป็นต้น
โหลดแต่ละชนิดจะใช้พลังงานไฟฟ้าไม่เท่ากัน
ซึ่งแสดงด้วย แรงดัน กระแส และกำลังไฟฟ้า
3.
สายไฟต่อวงจร เป็นสายนำหรือสายไฟฟ้า ใช้เชื่อมต่อวงจรให้ต่อถึงกันแบบครบรอบ
ทำให้แหล่งจ่ายแรงดันต่อถึงโหลดเกิดกระแสไหลผ่านวงจร
จากแหล่งจ่ายไปโหลดและกลับมาครบรอบที่แหล่งจ่ายอีกครั้ง
สายไฟฟ้าที่ใช้ต่อวงจรทำด้วยทองแดงมีฉนวนหุ้มโดยรอบ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งาน ส่วนประกอบทั้ง 3 ส่วน เมื่อต่อร่วมกันครบวงจรจึงทำงาน
วงจรไฟฟ้าเบื้องต้น แสดงดังรูป

แบบวงจรไฟฟ้า
ส่วนสำคัญของวงจรไฟฟ้า
คือ การต่อโหลดใช้งาน
โหลดที่นำมาต่อใช้งานในวงจรไฟฟ้าสามารถต่อได้หลายวิธี ดังนี้
การต่อวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม เป็นการต่อวงจรไฟฟ้าโดยมีโหลดหลายตัวในวงจรถูกต่อเรียงเป็นลำดับกันไป
โดยเอาปลายด้านหนึ่งต่อกับปลายอีกด้านหนึ่งต่อเรียงไปเรื่อยๆการต่อไฟฟ้าแบบอนุกรมส่วนใหญ่จะไม่นิยมใช้ในการต่อวงจรทั่วไป
ผลจากการต่อวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม
1.
กระแสไฟฟ้าจะไหลผ่านในวงจรเท่ากันหมด
2.
ความต้านทานรวมของวงจรเท่ากับผลบวกของความต้านทานแต่ละตัว
3.
แรงดันไฟฟ้ารวมภายในวงจรเท่ากับผลบวกของแรงดันตกคร่อมของตัวต้านทานแต่ละตัว

4.
ถ้าจุดหนึ่งจุดใดภายในวงจรขาด ไฟฟ้าจะดับหมดทุกจุด
การต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนาน
เป็นการต่อวงจรไฟฟ้าโดยมีโหลดในวงจรหลายตัวถูกต่อคร่อมกันไปเรื่อยๆ
จนครบวงจร
การต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนานเป็นการต่อวงจรที่ใช้ทั่วไปกับไฟฟ้าแสงสว่าง และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเรือน เช่น พัดลม
หม้อหุงข้าว เตารีด เป็นต้น
ผลจากการต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนาน
1.
ความต้านทานรวมของวงจรจะมีค่าน้อยกว่าความต้านทานตัวที่น้อยที่สุด
2.
กระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านในวงจรจะเท่ากับกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละชนิดรวมกัน
3.
แรงดันไฟฟ้าที่ไหลผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกจุดจะเท่ากัน ฉะนั้นกำลังส่องสว่างจะไม่ตก
4.
ถ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าจุดหนึ่งจุดใดขาดไป จุดอื่นๆ
ยังใช้งานได้
จึงนิยมวิธีการต่อไฟฟ้าแบบขนานในบ้านเรือน
5.
ถ้าจุดหนึ่งจุดใดภายในวงจรขาด ไฟฟ้าจะดับหมดทุกจุด
การต่อวงจรไฟฟ้าแบบผสม
เป็นการต่อวงจรไฟฟ้าโดยการต่อรวมกันระหว่างวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรมกับวงจรไฟฟ้าแบขนาน
ภายในวงจร
โหลดบางตัวต่อวงจรแบบอนุกรม
และโหลดบางตัวต่อวงจรแบบขนาน
การต่อวงจรไม่มีมาตรฐานตายตัว
เปลี่ยนแปลงไปตามลักษณะการต่อวงจรตามต้องการ
การต่อวงจรไฟฟ้าแบบผสม
การต่อแบบนี้นิยมใช้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น
โทรทัศน์ วิทยุ เครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น
ผลจากการต่อวงไฟฟ้าแบบผสม
1.
ในกรณีที่อุปกรณ์ไฟฟ้าจุดใดขาด จุดอื่นๆ
จะยังคงใช้ได้เป็นบางจุด
2.
การตรวจซ่อมยุ่งยาก
เนื่องจากอุปกรณ์ไฟฟ้าบางจุดจะต่อเข้ารวมเป็นวงจรเดียวกัน จึงไม่นิยมการต่อวงจรไฟฟ้าแบบผสมในบ้านเรือน
กิจกรรมจัดการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ 7-8
ก.
ขั้นสร้างความสนใจ / ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
·
อธิบายถึงความสำคัญของวงจรไฟฟ้าที่มีใช้กับการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน แล้วสาธิตของการทำงาน
เพื่อการเรียนรู้ถึงบทบาทความสำคัญของวงจรไฟฟ้าที่ใช้กันภายในบ้าน
ข.
ขั้นการเรียนการสอน
·
จัดทำเนื้อหาสื่อการเรียนรู้รายวิชาให้กับนักเรียน
· อธิบายสาระสำคัญ ส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า และการทำงานเมื่อต่อร่วมกันครบวงจร พร้อมทั้งสัญลักษณ์ที่ใช้เขียนแทนส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้าในรูปของแผนผังวงจร
ค.
ขั้นสรุป
·
ครูสรุปเนื้อความสำคัญของวงจรไฟฟ้าที่ใช้ปฏิบัติเขียนวงจรไฟฟ้า
ชั่วโมงที่ 9-10
ก.
ขั้นสร้างความสนใจ / ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
·
ทบทวนเนื้อหาจากชั่วโมง 7-8
ข.
ขั้นการเรียนการสอน
· อธิบายความสำคัญของการต่อวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม
· เขียนสัญลักษณ์ของส่วนประกอบวงจร คือ แหล่งจ่ายไฟฟ้า 1 ชุด
และโหลดหรืออุปกรณ์ 4 ตัว
พร้อมอธิบายการต่อวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรมให้นักเรียนทราบและเข้าใจการต่อวงจร
· อธิบายความสำคัญของการต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนาน
· เขียนสัญลักษณ์ของส่วนประกอบวงจร คือ แหล่งจ่ายไฟฟ้า 1 ชุด
และโหลดหรืออุปกรณ์ 4 ตัว
พร้อมอธิบายการต่อวงจรไฟฟ้าแบบขนานให้นักเรียนทราบและเข้าใจการต่อวงจร
· อธิบายความสำคัญของการต่อวงจรไฟฟ้าแบบผสม
· เขียนสัญลักษณ์ของส่วนประกอบวงจร คือ แหล่งจ่ายไฟฟ้า 1 ชุด
และโหลดหรืออุปกรณ์ 4 ตัว
พร้อมอธิบายการต่อวงจรไฟฟ้าแบบผสมให้นักเรียนทราบและเข้าใจการต่อวงจร
ค.
ขั้นสรุป
· ให้นักเรียนฝึกการเขียนวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรมลงในช่องว่างของสื่อการเรียนรู้
· ให้นักเรียนฝึกการเขียนวงจรไฟฟ้าแบบขนานลงในช่องว่างของสื่อการเรียนรู้
· ให้นักเรียนฝึกการเขียนวงจรไฟฟ้าแบบผสมลงในช่องว่างของสื่อการเรียนรู้
·
ทดสอบหลังการเรียนรู้
(เขียนวงจรไฟฟ้าการต่อแบบอนุกรม
แบบขนาน และแบบผสม)
·
ครูตรวจ อธิบาย
สรุปคะแนน
·
เสริมแรงด้วยการชื่นชม ยกย่อง
ชมเชย
ภาระงานของนักเรียน
1.
นักเรียนเขียนวงจรไฟฟ้าการต่อแบบอนุกรม แบบขนาน
และแบบผสม
การวัดผลและประเมินผล
1. วิธีการวัดผล
- ตรวจแบบทดสอบระหว่างการเรียนรู้ในสื่อการเรียนรู้
- ทดสอบหลังการเรียนรู้
2 เครื่องมือในการวัดผลและประเมินผล
- ทดสอบระหว่างการเรียนรู้ในสื่อการเรียนรู้
- แบบทดสอบหลังการเรียนรู้
3 เกณฑ์ในการวัดผลและประเมินผล
- ทดสอบระหว่างการเรียนรู้ในสื่อการเรียนรู้
9
– 10 คะแนน ดีมาก
7
– 8 คะแนน ดี
5
– 6 คะแนน พอใช้
0
– 4 คะแนน ปรับปรุง
- แบบทดสอบหลังการเรียนรู้
9
– 10 คะแนน ดีมาก
7
– 8 คะแนน ดี
5
– 6 คะแนน พอใช้
0
– 4 คะแนน ปรับปรุง
สื่อการเรียนการสอน / แหล่งเรียนรู้
1. สื่อการเรียนรู้รายวิชา งานไฟฟ้า 2
ลงชื่อ ผู้สอน
(
นายเรวัตร
เจียมฉวี )
……./………./…….
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น